รายงานการวิจัยการท่องเที่ยวล่าสุดของโลก จากฟอรั่มเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum:WEF) ระบุว่า การท่องเที่ยวของทั่วโลกในปี 2024 นี้ ได้รับอานิสงส์จากการยกเลิกข้อจำกัดการเดินทาง ที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาด ความต้องการการท่องเที่ยวอันมหาศาล จํานวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ และความสำคัญของการท่องเที่ยวมีต่อจีดีพีของทั่วโลก คาดว่า จะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด
เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกและมหาวิทยาลัยเซอร์รีย์ของอังกฤษได้ร่วมกันเผยแพร่รายงานดัชนีการพัฒนาการท่องเที่ยวประจำปี 2024 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยวิเคราะห์สภาพการพัฒนาและแนวโน้มของการท่องเที่ยวของ 119 ประเทศทั่วโลก
รายงานดังกล่าว ระบุ ว่า ประเทศที่มีรายได้สูงในยุโรปและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นผู้นําในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของโลก ในบรรดา 30 ประเทศที่ได้คะแนนสูงสุดปรากฏว่า 26 ประเทศเป็นประเทศที่มีรายได้สูง เป็นประเทศในยุโรป 19 ประเทศ ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 7 ประเทศ ในทวีปอเมริกา 3 ประเทศ และอีก 1 ประเทศ คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งอยู่ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ นอกจากนี้ ประเทศ 10 อันดับแรกในดัชนีการพัฒนาการท่องเที่ยวในปี 2024 ได้แก่ สหรัฐอเมริกาสเปน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลียเยอรมนี สหราชอาณาจักร จีน อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์
ผลการวิจัยแสดงให้เห็น ว่า ประเทศที่มีรายได้สูงโดยทั่วไป ยังคงรักษาสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว รวมถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้อ ตลาดแรงงานที่มีชีวิตชีวา นโยบายการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เปิดกว้าง โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง และสถานที่ท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ทั้งทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม รายงานดังกล่าวยัง ระบุ ว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกคาดว่าจะฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในช่วงการแพร่ระบาด และสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด สาเหตุหลักมาจากความต้องการเดินทางทั่วโลก ที่เพิ่มขึ้น และจํานวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่เปิดกว้างมากขึ้น ความสนใจ และการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมก็เป็นปัจจัยที่ผลักดันให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศฟื้นตัว
รายงานดังกล่าว ยังระบุด้วย ว่า แม้จะฟื้นตัวจากผลกระทบของวิกฤตสาธารณสุขทั่วโลก แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจมหภาคที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ภูมิรัฐศาสตร์ และสิ่งแวดล้อมตลอดจนผลกระทบจากเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น ข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์ นอกจากนี้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานยังไม่ได้รับการแก้ไข ปริมาณการขนส่งทางอากาศ การลงทุน ประสิทธิภาพการผลิต และอุปทานอื่น ๆ ยังไม่ทันกับการเติบโตของอุปสงค์ ประกอบกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก ความไม่สมดุลเหล่านี้ ก่อให้เกิดการขึ้นราคา และสร้างปัญหาด้านการบริการมากขึ้น
รายงานฉบับนี้ เน้นย้ำ ว่า แม้จะมีความก้าวหน้าอย่างมาก แต่ประเทศกําลังพัฒนายังคงจําเป็นต้องลงทุนจํานวนมากเพื่อปิดช่องว่างกับประเทศที่มีรายได้สูงในแง่ของสภาพแวดล้อมการท่องเที่ยว และส่วนแบ่งการตลาด ด้วยเหตุนี้แนวทางที่เป็นไปได้คือการใช้ทรัพย์สินทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน เทียบกับปัจจัยอื่น ทรัพย์สินทางธรรมชาติและวัฒนธรรมมีความสัมพันธ์น้อยกับระดับรายได้ประชาชาติ ทําให้ประเทศกําลังพัฒนามีโอกาสพึ่งพาการท่องเที่ยวในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ
รายงานฉบับนี้ ยังได้ระบุความเสี่ยงต่างๆ ที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งรวมถึงความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อและสภาพอากาศที่รุนแรง นอกจากนี้ การท่องเที่ยวมีลักษณะฤดูกาลที่เด่นชัด ความแออัดยัดเยียดตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และการปล่อยมลพิษมีความเป็นไปได้จะคืนสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด ประเด็นเหล่านี้สร้างความตระหนักว่า ความสมดุลระหว่างการเติบโต กับความยั่งยืนยังคงเป็นประเด็นสําคัญของการพัฒนาการท่องเที่ยว
รายงานฉบับนี้ แนะนํา ว่า ผู้กําหนดนโยบายของประเทศต่าง ๆ ควรใช้ปฏิบัติการในด้านต่อไปนี้ก่อน
1)ใช้ประโยชน์จากการพัฒนาการท่องเที่ยว ไปผลักดันงานการอนุรักษ์ธรรมชาติ
2)ลงทุนพัฒนาแรงงานที่มีทักษะที่ยืดหยุ่นและครอบคลุม
3)จัดการพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างมีกลยุทธ์
4)ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างนักท่องเที่ยว กับชุมชนท้องถิ่น
5)ใช้การท่องเที่ยวในการลดความเหลื่อมล้ำ ทางดิจิทัล
บุคคลในแวดวงการท่องเที่ยวของจีน ระบุ ว่า ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวมีส่วนต่อจีดีพีของทั่วโลก ร้อยละ 10 โลก และได้สร้างโอกาสการจ้างงานของทั่วโลก ร้อยละ 10 มาโดยตลอด ในอนาคต การท่องเที่ยวพร้อมที่จะเป็นกําลังสําคัญ ในการสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองของโลก และความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนทุกแห่งและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
เขียนโดย โจว ซวี่ ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)
TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : ศุกร์ 14 มิถุนายน 2567 18:22:59 เข้าชม : 1897282 ครั้ง