ปี ค.ศ. 2013 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวสุนทรพจน์สำคัญที่คาซัคสถาน และอินโดนีเซีย โดยได้เสนอความคิดริเริ่มว่าด้วยการร่วมกันสร้าง “แถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม” และ “เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21” ตามลำดับ ตั้งแต่นั้นมา ความร่วมมือในการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้เปิดบทใหม่ สำหรับการพัฒนาของโลก
ช่วงกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา การร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ประสบผลสำเร็จมากมาย โดยจีนประสบความสำเร็จในการจัดประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” สามครั้ง และได้ลงนามเอกสารความร่วมมือเกี่ยวกับการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับ 150 กว่าประเทศและกว่า 30 องค์การระหว่างประเทศ , โครงข่ายการเชื่อมต่อกัน “หกระเบียง หกช่องทาง หลายประเทศ หลายท่าเรือ” ได้ก่อรูปขึ้นในขั้นพื้นฐาน และได้เสร็จสิ้นการสร้างโครงการสำคัญ เชิงสัญลักษณ์หลายโครงการ เช่น ทางรถไฟจีน-ลาว ทางรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง และทางรถไฟฮังการี-เซอร์เบีย เป็นต้น จีนและธนาคาร เพื่อการพัฒนาพหุภาคี ได้ร่วมเตรียมการสร้างศูนย์ความร่วมมือทางการเงิน เพื่อการพัฒนาพหุภาคี โดย ธนาคารเพื่อการพัฒนาและธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า ต่างก็วางกรอบในการระดมทุน 350,000 ล้านหยวน ได้สร้างระบบการลงทุนและการระดมทุนที่หลากหลาย มั่นคง และยั่งยืนในขั้นพื้นฐาน , ณ สิ้นเดือนกันยายน ปีนี้ ยอดการค้าสินค้าระหว่างจีนกับประเทศที่ร่วม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” สูงถึง 160 ล้านล้านหยวน จีนครองอันดับหนึ่งของโลก ทั้งในแง่จำนวนการลงนามข้อตกลงการรับรองมาตรฐานเออีโอ ซึ่งกันและกัน และในแง่จำนวนประเทศ ที่ให้การรับรองมาตรฐานเออีโอ ซึ่งกันและกัน ระดับการเปิดเสรี และการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการลงทุนได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเด่นชัด , ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรป ได้เข้าถึง 227 เมืองใน 25 ประเทศยุโรป และมากกว่า 100 เมืองใน 11 ประเทศ เอเชีย มีการเดินรถขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรป แล้วกว่า 100,000 ขบวน ขนส่งสินค้ามากกว่า 11 ล้านทีอียู คิดเป็นเงิน กว่า 420,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ , “หลู่ปัน เวิร์กชอป” (Luban Workshop) แห่งประเทศไทยซึ่งถือเป็น “หลู่ปัน เวิร์กชอป” แห่งแรกได้เปิดดำเนินการเมื่อ ค.ศ. 2016 ในช่วงกว่า 8 ปี นับจากนั้น จีนได้ร่วมกับประเทศต่างๆสร้าง “หลู่ปัน เวิร์กชอป” มากกว่า 30 แห่ง ใน 3 ทวีป อันได้แก่ เอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ได้ฝึกอบรมนักเรียนสายวิชาการเกือบ 10,000 คน ได้ฝึกอบรมสายอาชีพกว่า 31,000 คน ซึ่งถือเป็นการสร้างสะพาน สำหรับการแลกเปลี่ยนบุคลากร และวัฒนธรรมระหว่างจีนกับต่างประเทศ
การร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่นั้น ถือเป็นการอุทิศภูมิปัญญาจีนและเสนอแนวทางจีนในการปรับเปลี่ยนระบบธรรมาภิบาล ตลอดจนความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของโลก ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุด กว้างขวางที่สุด และทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้วางแผน กำหนดมาตรการ และขับเคลื่อนการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา จีนได้จัดประชุมเกี่ยวกับการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ครั้งที่ 4 ที่กรุงปักกิ่ง ขณะกล่าวสุนทรพจน์ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นว่า การร่วมกันสร้าง” “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้เข้าสู่ขั้นใหม่แห่งการพัฒนาคุณภาพสูง พร้อมยืนยันถึงผลสำเร็จที่สำคัญในการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และได้มอบนโยบายเพื่อส่งเสริมการร่วมกันพัฒนา “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่ครอบคลุม และมีคุณภาพสูง ทั้งในปัจจุบัน และในระยะต่อ ๆ ไป เช่น ปรับปรุงกลไกการวางแผน และการบริหารจัดการ โดยรวมในการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ปรับปรุงกลไกการประสานงาน และการขับเคลื่อน “การเชื่อมโยงด้านฮาร์ดแวร์” “การเชื่อมโยงด้านซอฟต์แวร์” และ “การเชื่อมโยงด้านจิตใจ” ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และขยายพื้นที่ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาที่มีชัยชนะร่วมกันในระดับที่สูงขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และยั่งยืนมากขึ้น ฯลฯ
การอัดฉีดโมเมนตัมใหม่ให้กับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก การเปิดพื้นที่ใหม่สำหรับการพัฒนาของโลก และการสร้างแพลตฟอร์มใหม่สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศนั้น ถือเป็นข้อเสนอของจีนมาโดยตลอด และก็เป็นความตั้งใจแรกเริ่มของความคิดริเริ่มว่าด้วยการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้ว ว่า การร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ไม่ใช่สโลแกนที่เลื่อนลอย แต่เป็นมาตรการเชิงปฏิบัติที่มองเห็นได้และจับต้องได้ ได้นำมา และยังคงจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ ที่จับต้องได้มาสู่ประเทศต่าง ๆ ต่อไป มองไปในอนาคต จีนจะทำงานร่วมกับนานาประเทศ ส่งเสริมการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ให้บรรลุการพัฒนาที่มีระดับ และคุณภาพสูงยิ่งขึ้น มุ่งสู่เป้าหมายการสร้างความทันสมัยของโลกด้วยการพัฒนาอย่างสันติ ความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กัน และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เพื่อสร้างคุณูปการใหม่ที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น ต่อการสร้างประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ
เขียน โดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)
TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ ศุกร์ 6 ธันวาคม 2567 13:32:59 เข้าชม : 1897645 ครั้ง