เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าไลม์ไลท์ ภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ นายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการความเป็นกลางทางคาร์บอนเมืองเก่าภูเก็ต โดยมี นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธาน มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน นายประสิทธิ์ สินเสาวภาคย์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายดอน ลิ้มนันทพิสิฐ ประธาน ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต สำนักงาน สิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 15 กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงาน ข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) ร่วมการแถลงข่าว
นายเรวัต อารีรอบ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า อบจ.ภูเก็ต ได้วางยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมไว้หลายโครงการ และถือว่าสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยปัจจุบัน อบจ.ภูเก็ต ได้จัดสรรงบประมาณเครื่องแปรสภาพขยะอินทรีย์เป็นสารปรับปรุงดิน มีความสามารถในการรองรับ 5 ตันต่อวัน โดยได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และวางแผนในการจัดสรรงบประมาณจัดหาเครื่องแปรสภาพขยะอินทรีย์เป็นสารปรับปรุงดินประจำพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแยกขยะอินทรีย์ออกจากขยะทั่วไป และช่วยในการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการจัดการขยะอินทรีย์
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธาน มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน กล่าวว่า ตามที่ประเทศไทย ได้ประกาศต่อหน้าประชาคมโลกในการประชุม COP 26 ว่า จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 2050 และบรรลุคาร์บอนสุทธิ ในปี 2065 นั้น จังหวัดภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ได้เริ่มดำเนินการในพื้นที่ถนนถลาง เพื่อศึกษาและประยุกต์รูปแบบ ก่อนที่จะขยายผลไปในพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ต โดยได้ร่วมมือกับชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต สำนักงานสิ่งแวดล้อม และควบคุมมลพิษที่ 15 กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) โดยได้เริ่มต้นศึกษาปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์อันเกิดจากแหล่งปล่อยสำคัญ 4 แหล่ง ได้แก่ จากยานพาหนะ จากน้ำเสีย จากปริมาณการใช้ไฟฟ้า และจากปริมาณขยะ และจะดำเนินการปรับลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ จากแหล่งทั้ง 4 แหล่ง ให้ได้ 30 % ภายใน 12 เดือน โดยจะมีการวัดผลทุก ๆ 3 เดือน
ทั้งนี้ มูลนิธิฯ จะนำถุงขยะ 4 สี แจกให้กับชุมชนย่านเมืองเก่า เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยและประกอบกิจการในถนนถลางได้ร่วมมือกันแยกขยะอย่างเข้มขัน โดยทางเทศบาลนครภูเก็ตจะดำเนินการจัดเก็บตามปกติ และแยกส่วนขยะอินทรีย์ที่ใส่ถุงเขียวไว้ต่างหาก และ อบจ.ภูเก็ต จะดำเนินการรับขยะอินทรีย์ ไปแปรสภาพเป็นสารปรับปรุงดิน ต่อไป และถุงสีชมพูจะจัดไว้ให้ผู้ประกอบการได้ตักไขมันจากถุงดักไขมันไว้ เพื่อให้บ่อบำบัดน้ำเสียรวมของเทศบาลนครฯ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อบจ.ภูเก็ต ดูแล ประชาชน
TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ ศุกร์ 2 กุมภาพันธ์ 2567 23:02:59 เข้าชม : 1589422 ครั้ง