Home ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์ บทวิเคราะห์ จาก “คำตอบ ที่เป็นประวัติศาสตร์” ถึง “คำตอบแห่งยุค” มีการสืบทอดอย่างไร ?

บทวิเคราะห์ จาก “คำตอบ ที่เป็นประวัติศาสตร์” ถึง “คำตอบแห่งยุค” มีการสืบทอดอย่างไร ?

3 second read
0
0
190

เช้าวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ.2024 มีการจัดประชุมอย่างยิ่งใหญ่เพื่อรำลึกครบรอบ 70 ปีการประกาศหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ร่วมการประชุมและกล่าวสุนทรพจน์หัวข้อ “เชิดชูหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จับมือสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน”

หลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติเป็นคำคุ้นหูสำหรับชาวจีน

เมื่อ 70 ปีก่อน การดำเนินการเพื่อความเป็นเอกราชและปลดปล่อยชาติเอเชีย-แอฟริกา-ลาตินอเมริกาเป็นไปอย่างคึกคัก ประเทศเกิดใหม่มีความปรารถนาที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เสมอภาค ภายใต้ภูมิหลังนี้ ผู้นำจีนเสนอหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติที่ครบถ้วนเป็นครั้งแรก เมื่อเผชิญกับประเด็นสำคัญซึ่งรวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการส่งเสริมการพัฒนาและสันติภาพของโลก ผู้คนรุ่น 70 ปีก่อนได้ให้ “คำตอบที่เป็นประวัติศาสตร์” ซึ่งก็คือ หลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

วันนี้ หลัง 70 ปี จีนได้ให้ “คำตอบแห่งยุค” ซึ่งก็คือ การสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน แล้วจาก “คำตอบที่เป็นประวัติศาสตร์” ถึง “คำตอบแห่งยุค” มีการสืบทอดอย่างไร? สร้างแรงบันดาลใจอย่างไร?

นายสี จิ้นผิง ระบุ ในสุนทรพจน์ ว่า กระบวนการในประวัติศาสตร์การพัฒนาสังคมมนุษย์ในยุคใกล้และปัจจุบัน การจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมพิทักษ์สันติภาพ และความสงบสุขของโลก การส่งเสริมการพัฒนาและความก้าวหน้าของมวลมนุษย์ เป็นประเด็นสำคัญที่ประเทศต่าง ๆ แสวงหาอย่างไม่ลดละมาโดยตลอด เมื่อ 70 ปีก่อน ผู้นำจีนเสนอหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติที่ครบถ้วนเป็นครั้งแรก ซึ่งได้แก่ การเคารพอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนซึ่งกันและกัน, ไม่รุกรานกัน, ไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศซึ่งกันและกัน, ให้ความเสมอภาคและอำนวยประโยชน์แก่กัน, อยู่ร่วมกันอย่างสันติ หลัก 5 ประการดังกล่าวเป็นบรรทัดฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กลายเป็นแนวทางในปฏิบัติที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีความสำคัญแห่งยุค

นายสี จิ้นผิง ย้ำ ว่า ให้หลัง 70 ปี ในวันนี้ เมื่อเผชิญกับประเด็นสำคัญที่ว่า “เราควรจะสร้างโลกแบบไหนและจะสร้างโลกนี้ได้อย่างไร?” จีนได้ให้คำตอบแห่งยุคสมัยนั่นก็คือ การสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน โดยแนวคิดการสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน มีต้นกำเนิดเดียวกันกับหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์การทูตจีนที่เชื่อมั่นในตนเอง พึ่งพาตนเอง ยึดมั่นความยุติธรรม ช่วยเหลือผู้อ่อนแอและเชิดชูคุณความดี ล้วนแสดงถึงเจตนาของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่สร้างคุณูปการใหม่ให้กับมนุษย์มากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของจีนในการยืนหยัดหนทางการพัฒนาอย่างสันติ เป็นการสืบทอด เชิดชู ต่อยอดหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในยุคใหม่ โดยแนวคิดนี้ตั้งอยู่บนสภาพความเป็นจริงที่ว่าชะตากรรมของประเทศต่าง ๆ เกี่ยวพันกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ได้สร้างแบบฉบับใหม่ของความเสมอภาคและการอยู่ร่วมกัน สอดคล้องกับกระแสหลักแห่งยุคในด้านสันติภาพ การพัฒนา ความร่วมมือและได้ชัยชนะร่วมกัน ได้เปิดศักราชใหม่แห่งสันติภาพและความก้าวหน้า มุ่งเน้นไปที่แนวโน้มทางประวัติศาสตร์ของโลกหลายขั้วและโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ได้สร้างแนวปฏิบัติใหม่ในการพัฒนาและความมั่นคง ในฐานะประเทศผู้ริเริ่มหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จีนจะยังคงสานต่อหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติต่อไป และจับมือกับประเทศต่าง ๆ สร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกันอย่างไร?

ในสุนทรพจน์ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างจริงจังต่อทั่วโลกว่า ความมุ่งมั่นของจีนในการเดินบนหนทางการพัฒนาอย่างสันติจะไม่เปลี่ยนแปลง ความมุ่งมันของจีนที่จะดำเนินความร่วมมือฉันมิตรกับประเทศต่าง ๆ จะไม่เปลี่ยนแปลง ความมุ่งมันของจีนที่ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของทั่วโลกจะไม่เปลี่ยนแปลง “นับจากนี้จนถึงปีค.ศ. 2030 ยอดการนำเข้าของจีนจากประเทศกำลังพัฒนาคาดว่ามากกว่า 8ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ” นี่ก็คือ ท่าทีที่เด่นชัดของจีน

ในวันนั้น (28 มิถุนายน ค.ศ.2024) มีกว่า 600 คนรวมตัวกันที่ห้องโถงสีทองของมหาศาลาประชาชนกรุงปักกิ่ง โดยมีบุคคลสำคัญจากเวียดนาม เมียนมาร์ แอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย บราซิล ฝรั่งเศส ไทย เป็นต้น

นายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีต รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ที่เดินทางมาจีน เพื่อร่วมการประชุมรำลึกครบรอบ 70 ปี การประกาศหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติกล่าวว่า หลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญจีน แสดงถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของจีน สะท้อนให้เห็นถึงหลักการพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และยังคงมีความสำคัญในทางปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน การสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกันได้ใส่ความหมายใหม่ๆของยุคเข้าไปในหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งสอดคล้องกับข้อริเริ่มสำคัญ 3 ประการที่เสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้แก่ ข้อริเริ่มเพื่อการพัฒนาของโลก ข้อริเริ่มเพื่อความมั่นคงของโลก และข้อริเริ่มว่าด้วยอารยธรรมของโลก ซึ่งมีความสำคัญยิ่งต่อโลกปัจจุบัน โดยไทยยินดีจับมือกับจีนและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ส่งเสริมการสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน และร่วมกันสร้างโลกที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผลมากขึ้น

ดังที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวไว้ “เรากำลังวางแผนและดำเนินมาตรการสำคัญเพื่อการปฏิรูปอย่างลึกครอบคลุมยิ่งขึ้น ขยายการเปิดประเทศอย่างต่อเนื่อง และสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มุ่งเน้นตลาดที่มีบริหารตามกฎหมายและเป็นสากลมากขึ้น” นี่คือ มาตรการที่ทรงพลังของจีน จีนจะยังคงชูหลักห้าประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ เพื่อสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ และให้การสนับสนุนใหม่ๆ ที่ยิ่งใหญ่กว่าในการพิทักษ์สันติภาพของโลก และส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน

เขียนโดย ชุย อี๋เหมิง ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)

TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : พฤหัสบดี 4  กรกฎาคม 2567  12:46:59 เข้าชม : 1897425 ครั้ง

Load More Related Articles
Load More By admin
Load More In ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์
Comments are closed.

Check Also

อบจ.ภูเก็ต ร่วมให้ข้อมูล เพื่อการประเมินศักยภาพของ จ.ภูเก็ต ในการพัฒนา และส่งเสริมการท่องเที่ยว โดย องค์กรการท่องเที่ยวยั่งยืนโลก

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา นายอานุภาพ เวชว … …