‘มรดกทางวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ของจีน’ ได้รับความนิยมเพิ่มในหมู่ ‘ชาวต่างชาติ’

ปักกิ่ง, 1 ต.ค. (ซินหัว) — ช่วงไม่กี่ปีมานี้ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีน ได้ดึงดูดใจชาวต่างชาติ และกลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ

มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีนสามารถแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เช่น วรรณกรรมพื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้าน ระบำพื้นบ้าน ละครพื้นบ้าน ศิลปะพื้นบ้าน และประเพณีพื้นบ้าน เป็นต้น

จวบจนปัจจุบัน องค์การยูเนสโก (UNESCO) ประกาศให้จีนมีมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ทั้งหมด 43 รายการ ซึงมากเป็นอันดับ 1 ของโลก

นอกจากนี้ มรดกทางวัฒนธรรมประเภทนี้ ยังมีคุณค่าทางด้านศิลปะและความสำคัญทางวัฒนธรรม กลายเป็นสะพานสำคัญเชื่อมชาวต่างชาติให้มีส่วนร่วมและเข้าใจวัฒนธรรมจีน เช่น ประเพณีพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับวัฒนธรรม

ถั่วเยี่ยนเจิง (Tuo Yanzheng) รองศาสตราจารย์คณะการจัดการท่องเที่ยวและบริการ มหาวิทยาลัยหนานไคของจีน กล่าวว่ามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีนที่ได้รับความนิยมในต่างแดนมักมีลักษณะดังนี้ ประการแรกคือการแสดงออกและภาพลักษณ์อันทรงพลัง เช่น งิ้วปักกิ่ง งิ้วเปลี่ยนหน้าสไตล์เสฉวน หนังเชิด และระบำพื้นบ้าน ประการที่สองคือผสมผสานองค์ประกอบของวัฒนธรรมจีน เช่น เซรามิก ผ้าไหม และการตัดกระดาษ ประการที่สามคือสะท้อนคุณค่าแก่ผู้ชมต่างประเทศ ประการที่สี่คือเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิต เช่น ศิลปะการป้องกันตัว และการนวดแบบจีนโบราณ เป็นต้น

แผนคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ระยะเวลา 5 ปี ฉบับที่ 14 ซึ่งเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี 2021 ระบุไว้ ว่า ควรมีการส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในระดับนานาชาติ และใช้ทรัพยากรเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบอกเล่าเรื่องราวของจีน

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่ามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ควรปรับให้เข้ากับสื่อใหม่ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มการแบ่งปันทั่วโลก ซึ่งจะช่วยนำเสนอวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตชาวจีน และดึงดูดความสนใจจากชาวต่างชาติได้ดีขึ้น

(เรียบเรียง โดย Yang Yifan, Xinhua Silk Road, https://www.xinhuathai.com/silkroad/468141_20241002 , https://en.imsilkroad.com/p/342332.html)

———————————————————————————————————————————

ภาพประกอบข่าว

(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนเข้าชมหอนิทรรศการมรดกทางวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ พื้นที่คลองใหญ่ของจีน ในเมืองชางโจว มณฑลเหอเป่ย ทางตอนเหนือของจีน เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2024)

TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ :  พุธ 2 ตุลาคม  2567  13:46:59 เข้าชม 1584796 ครั้ง