
“ปักกิ่ง เป็นเมืองที่ดิฉันชอบและมาบ่อย เพราะว่า ตอนนั้นคุณพ่อก็ได้อยู่ที่นี่บ่อย” นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อหลักของจีน ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง : ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และอบอุ่น
ในการเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร แต่เป็นครั้งที่สอง ที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ท่านรู้สึกประทับใจยิ่งกับความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์โดดเด่นของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
นายกฯ กล่าวว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไม่เพียงแต่มีวิสัยทัศน์เท่านั้น แต่ยังเป็นคนอบอุ่น และเป็นมิตรอีกด้วย ปธน.สี ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และมีวิจารณญาณที่ชัดเจน คาแรคเตอร์นี้ น่าชื่นชม และคุ้มค่าแก่การเรียนรู้ นายกฯ ยอมรับว่า แม้ว่าได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพียง 5 เดือน เท่านั้น แต่รู้สึกประทับใจต่อความเป็นผู้นำของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ติดตามข่าวไทย และให้คำเสนอแนะที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายไทย ยินดีที่จะรับฟังข้อเสนอเหล่านี้ จากจีน
ไทยสนับสนุนจีนมาตลอด เหมือนที่จีนสนับสนุนไทยเช่นกัน
ปี 2025 ถือเป็นปีแห่งการครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย ซึ่งถือเป็น ปีทองแห่งมิตรภาพไทย – จีน (Golden Jubilee for Thailand – China Friendship) เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต มิตรภาพระหว่างจีนและไทย ได้สืบทอดมาเป็นเวลานับพันปี และแนวคิดที่ว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ยังคงอยู่ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
นายกรัฐมนตรี ย้ำถึงมิตรภาพอันลึกซึ้งระหว่างทั้งสองประเทศ โดยมิตรภาพระหว่างสองประเทศ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เนื่องจากประชาชนต่างก็รักกันและมีรากฐานทางวัฒนธรรมร่วมกัน นายกฯ ย้ำว่า ไทยสนับสนุนจีนมาตลอด เหมือนที่จีนสนับสนุนไทยเช่นกัน จิตวิญญาณแห่งการสนับสนุนซึ่งกันและกันนี้ เป็นรากฐานที่สำคัญ สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องระหว่างทั้งสองประเทศ “ในอนาคต เราจะยังคงสนับสนุนซึ่งกันและกัน และร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีนี้ ต่อไป”
นายกฯ แพทองธาร เผยว่า เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต จีนและไทย ได้จัดกิจกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนมายังประเทศไทย ความร่วมมือด้านแพนด้า โครงการทางวัฒนธรรมต่างๆ ล้วนกำลังผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้มุ่งสู่ “50 ปีทองมิตรภาพจีน-ไทย” ต่อไป
ส่งเสริมความร่วมมือด้านกีฬา กระชับความสัมพันธ์ระดับประชาชน
นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะนำคณะผู้แทนรัฐบาลไทย เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ณ เมืองฮาร์บิน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ โดยนายกฯ กล่าวว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การแข่งขันครั้งนี้ จะเป็นโอกาสให้ประชาชนชาวไทย ได้หันมาสนใจกีฬาฤดูหนาวมากยิ่งขึ้น และช่วยจุดประกายความสนใจ และการสนับสนุนกีฬาฤดูหนาว
คณะนักกีฬาไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น กว่า 100 คน ซึ่งรวมถึงทีมฮอกกี้น้ำแข็งและเคอร์ลิง ที่เข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรก นายกฯ แพทองธารกล่าวว่า ตั้งใจที่จะร่วมพูดคุย และให้กำลังใจนักกีฬาไทย อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งแบ่งปันภาพบรรยากาศและเรื่องราวความประทับใจจากการแข่งขันผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้อวยพรให้นักกีฬาไทยทุกคนประสบความสำเร็จและแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ในการแข่งขัน นายกฯ เคยมาที่เมืองฮาร์บินเมื่อสิบปีก่อน และประทับใจทิวทัศน์อันสวยงามของหิมะและน้ำแข็งของเมืองแห่งนี้
นายกฯ แพทองธาร กล่าวว่า แม้การแข่งขันกีฬาย่อมมีผู้แพ้และผู้ชนะ แต่เป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือ การส่งเสริมความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนจากนานาประเทศ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแลกเปลี่ยนด้านกีฬาในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนระหว่างไทยและจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และทำให้ความสัมพันธ์ “ไทย-จีนมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” คงอยู่ตลอดไป
หวังว่า จะเดินทางระหว่างไทย-จีนโดยรถไฟได้ในอนาคตอันใกล้นี้
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย โครงการมีกำหนดเริ่มก่อสร้าง ในปี 2025 และคาดว่า จะแล้วเสร็จ ในปี 2031 ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น ผู้โดยสารจะสามารถใช้บริการรถไฟความเร็วสูงจากคุนหมิงไปยังกรุงเทพฯ ได้โดยตรง
นายกฯ กล่าวว่า โครงการรถไฟไทย-จีน จะช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างลาว จีน และไทยเป็นอย่างมาก ด้วยการพัฒนาและปรับปรุงโครงการรถไฟอย่างต่อเนื่อง การแลกเปลี่ยน และความร่วมมือระหว่างประชาชนไทยและจีน จะเกิดขึ้นบ่อยครั้งยิ่งขึ้น สิ่งนี้จะไม่เพียงแต่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังทำให้มิตรภาพ และความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนทั้งสองลึกซึ้ง ยิ่งขึ้น อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเดินทางโดยรถไฟซึ่งเป็นวิธีการเดินทางแบบดั้งเดิมนั้น ไม่เพียงแต่สะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความผูกพัน ไม่ว่าจะเป็นคนจีนหรือคนไทย ต่างก็มีความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับการเดินทางโดยรถไฟมากมาย “ดิฉัน คิดว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะสามารถเดินทางด้วยรถไฟได้อย่างสะดวก”
ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อปัญหาด้านความปลอดภัย และจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาประเทศไทย
ในปี 2024 นักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดินทางไปประเทศไทย มีจำนวน ถึง 6.7 ล้านคน ประเทศจีน เป็นประเทศต้นทางนักท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยมาหลายปี ติดต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปีที่แล้ว ที่ประเทศไทยและจีน ได้ดำเนินนโยบายฟรีวีซ่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความปลอดภัยในการเดินทางไปต่างประเทศ ได้กลายเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ประชาชนชาวจีนให้ความสนใจอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ ก่อนที่จะเดินทางเยือนประเทศจีน ไทยได้ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและน้ำมัน ในพื้นที่เมียนมาที่เกี่ยวข้องแล้ว
นายกรัฐมนตรีแพทองธาร กล่าวว่า การปราบปรามการหลอกลวงทางโทรคมนาคมและอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นวาระสำคัญของการเดินทางครั้งนี้ “ประเทศไทย ได้ใช้มาตรการที่แข็งแกร่งในเรื่องนี้ เช่น การตัดเน็ตและน้ำมัน เป็นต้น จากรายงานเบื้องต้น จำนวนการหลอกลวงทางโทรคมนาคมลดลง และเราจะติดตามความเคลื่อนไหว และข้อมูล ต่อไป”
TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : ศุกร์ 7 กุมภาพันธ์ 2568 20:31:59 เข้าชม : 1687399 ครั้ง