Home ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์ โก โฮลเซลล์ ลดขยะอาหาร บรรเทาวิกฤติโลก ผนึก SOS บริจาคอาหารส่วนเกิน ลดความเหลื่อมล้ำในชุมชน

โก โฮลเซลล์ ลดขยะอาหาร บรรเทาวิกฤติโลก ผนึก SOS บริจาคอาหารส่วนเกิน ลดความเหลื่อมล้ำในชุมชน

23 second read
0
0
116

ความน่าสะพรึงกลัวของสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงทำให้คนทั้งโลกหันมาตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมกันอย่างจริงจัง แต่ยังทำให้ทุกภาคธุรกิจต้องหันมาพิจารณาห่วงโซ่อุปทาน ระบบซัพพลายเชน และวางนโยบายด้านความยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ ขยะอาหาร ที่พบว่า ปริมาณการเกิดขึ้นบนโลก ยังคงอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ! เห็นได้จากตัวเลขค่าเฉลี่ยขยะอาหารของโลกจาก Food Waste Index 2024 ของ UNEP พบแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 79 กิโลกรัมต่อคนต่อปี จากเดิม 74 กิโลกรัมต่อคนต่อปี !

ขณะที่ประเทศไทยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 86 กิโลกรัมต่อคนต่อปี! (จากเดิม 79 กิโลกรัมต่อคนต่อปี) สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกและค่าเฉลี่ยในระดับเดียวกันกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กัมพูชา ที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 85 กิโลกรัมต่อคนต่อปี

“โก โฮลเซลล์” (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร เพื่อผู้ประกอบการ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จึงร่วมกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS Thailand) จัดทำโครงการความร่วมมือในการจัดการอาหารส่วนเกิน เพื่อส่งต่อให้กับเครือข่ายผู้รับบริจาคอาหารในชุมชนต่าง ๆ  โดยเริ่มที่ โก โฮลเซลล์ สาขาเจริญราษฎร์ เป็นสาขาแรก

“พีระพณ ตัณฑ์พูนเกียรติ” Head of Risk Management and Sustainability บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับมูลนิธิ SOS นับเป็นการเริ่มต้นครั้งสำคัญของโก โฮลเซลล์ เพื่อส่งต่ออาหารส่วนเกินไปยังชุมชนที่มีความต้องการ ซึ่งเราเริ่มโครงการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568  โดย SOS เข้ามารับอาหารไปแจกจ่ายยังชุมชนต่าง ๆ รวมกว่า 20 ชุมชน ทั่วกรุงเทพฯ แล้ว หากนับเป็นจำนวนมื้อ โก โฮลเซลล์ ได้ส่งมอบอาหารไปแล้วประมาณ 10,500 มื้อ มีผู้รับ กว่า 2,500 คน !

โก โฮลเซลล์ มีเป้าหมายด้านความยั่งยืนในเรื่องของการจัดการขยะอาหาร หรืออาหารส่วนเกิน ตั้งแต่เริ่มธุรกิจ และมุ่งมั่นดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตจะขยายโครงการไปยังสาขาอื่น ๆ นอกจากนี้ โก โฮลเซลล์ ยังมุ่งรณรงค์สร้างการตระหนัก   รู้ถึงการลดปริมาณขยะอาหารให้กับลูกค้าผู้ประกอบการร้านอาหาร และลูกค้าทุกกลุ่ม ในหลายแนวทาง อาทิ การรณรงค์ให้เกิดการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า มุ่งเน้นการขับเคลื่อนให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดขยะอาหาร ทั้งป้องกันการเกิด การลด การนำกลับมาใช้ประโยชน์และการกำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อลดการสร้างขยะอาหารตั้งแต่ต้นทาง

ด้าน ธนาภรณ์ อ้อยอิสรานุกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการและฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิ SOS ประเทศไทย เปิดเผยว่า  “มูลนิธิ SOS พบว่ากลุ่มเปราะบางในชุมชน กลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ ยังมีความต้องการอาหารอีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มโปรตีนพวกเนื้อสัตว์ นม ไข่ และอาหารที่มีโภชนาการสูง การที่ภาคธุรกิจใส่ใจย้อนกลับไปดูแลกระบวนการผลิตเพื่อลดขยะอาหาร รวมถึงการจัดการอาหารส่วนเกินที่จะสามารถส่งต่ออาหารเหล่านั้นไปยังผู้ยากไร้ นับเป็นสิ่งที่ดี เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างยิ่ง ทางเราพร้อมช่วยจัดการอาหารส่วนเกินเหล่านี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากขยะอาหารแล้ว ยังส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร ช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าด้วย

“อาหารส่วนเกิน” ของโก โฮลเซลล์ เริ่มต้นหลังจากสินค้าอาหารสด ผ่านการขายลดราคามาแล้ว โดยพนักงานจะนำมาคัดแยก ภายใต้ข้อกำหนดคือ ต้องไม่หมดอายุ หรือถ้าเป็นอาหารที่ Best Before  ต้องไม่เกิน 7 วัน และต้องมีลักษณะทางกายภาพที่ยังรับประทานได้  จากนั้นจะนำอาหารส่วนเกินที่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่คือ ผัก ผลไม้ ไส้กรอก ลูกชิ้น ฯลฯ ไปเก็บในห้องเย็น เมื่อรถจากมูลนิธิ SOS พร้อม จะแจ้งรับสินค้า โดยที่เจ้าหน้าที่ SOS จะคัดเลือกสินค้าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจ ก่อนจะนำใส่รถเก็บอุณหภูมินำไปส่งยังชุมชนต่าง ๆ โดยมีทั้งที่นำไปแจกจ่ายได้เลยอย่างผัก ผลไม้ หรือต้องนำไปประกอบอาหารโดยครัวกลางของชุมชนแล้วนำไปแบ่งปัน

พรทิพย์ วงศ์จอม ประธานชุมชนบ้านมั่นคงสวนพลู เล่าว่า เมื่อได้อาหารมา เราก็จะนำมาแบ่งปันให้คนในชุมชนของเรา และชุมชนใกล้เคียง เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยเราทำในนามสภาองค์กรชุมชนเขตสาทร จาก 19 กลุ่ม เพื่อดูแลผู้ด้อยโอกาสทั้งหมดใน 13 ชุมชน ซึ่งเราเป็นชุมชนเมือง คนมักจะคิดว่ามีรายได้เยอะ จริงๆ ไม่ใช่ ชุมชนเรามีผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก

นับเป็นการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนของ โก โฮลเซลล์ ที่จะลดปริมาณขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบให้น้อยที่สุด เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญ ภายใต้ปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ “CRC Care” ในมิติ Care for the Environment ของ เซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งสร้างโลกสีเขียวอย่างยั่งยืน ตอกย้ำเจตนารมณ์ในการเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีก-ค้าส่งต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย

TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ :  อังคาร  18  มีนาคม  2568  11:00:00 เข้าชม : 1578911  ครั้ง

Load More Related Articles
Load More By admin
Load More In ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์
Comments are closed.

Check Also

ข่าวบริจาค วันที่ 18 มี.ค.68 โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต รับมอบเงิน เพื่อสมทบทุน สร้าง ศูนย์มะเร็งแห่งแรกของจังหวัดภูเก็ต “ศูนย์รังสีรักษาครบวงจร โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต”

18 มีนาคม 2568 คุณสายใย ภู่ต้อง (ร้านเฮียบโหเครื่องเย็น … …